Page 14 - เรื่อง วัสดุวัฒนธรรม ปูนโบราณ จิตรกรรมฝาผนัง และอาณาจักรทวารวดี
P. 14

10



               2.  จิตรกรรมฝาผนัง
               2.1  ประเภทของจิตรกรรมฝาผนัง

                    โดยทั่วไปจิตรกรรมฝาผนังมี 2 ประเภท คือ
                    1. จิตรกรรมฝาผนังแบบประเพณี  (Traditional  mural  paintings)  เป็นรูปภาพที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ

               พระพุทธศาสนา ทศชาดก เทพและสิ่งศักดิ์สิทธ์ รามเกียรติ์  เทพนิกรและสัตว์ต่าง ๆ

                    2. จิตรกรรมร่วมสมัย  (Contemporary)  เป็นรูปภาพบนฝาผนังที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวร่วมสมัย  ความ
               เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการศึกษา    การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม   รูปแบบมีความอิสระ

               เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และรสนิยมของศิลปิน
                    จิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้มักเขียนในพระอุโบสถ  และวิหาร  จิตรกรรมเหล่านี้เป็นเหมือนเครื่องสักการะต่อ

               องค์พระพุทธเจ้า และยังเป็นเครื่องเตือนใจเกี่ยวกับความผิด-ชอบ ชั่ว-ดี ตามหลักของพระพุทธศาสนาอีกด้วย

                                                                                                     ิ
               จิตรกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ที่สุดถูกสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยตอนต้น (หรือช่วง พ.ศ. 1762-1840) โดยได้รับอทธิพล
               จากอินเดียและเขมร  และประมาณช่วงอยุธยาตอนต้น  จิตรกรรมฝาผนังของไทยมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ  ์

               และแตกต่างจากจิตรกรรมของอินเดียและเขมร  ลักษณะของจิตรกรรมในสมัยอยุธยา  (ช่วงปี  พ.ศ.  1893-

               2310) จะได้จากรูปภาพในหนังสือ สีที่ใช้มักเป็น ขาว-ด า หรือ ขาว-ด า ผสมกับ เหลืองและดินแดง ลักษณะ
               รูปภาพไม่มีสีสันมากนัก  ในช่วงปลายอยุธยา  (หลังจากปี  ค.ศ.  2173)  ลักษณะจิตรกรรมฝาผนังของไทยจะมี

                                                           ี
               การใช้สีหลายสีผสมกัน (Polychromatic art) และมการใช้สีแดงชาด (vermillion) เป็นสีพื้น และทารูปทรง
               ต่างๆด้วยสีเหลืองอ่อน   และเริ่มต้นใช้ทองในจิตกรรมฝาผนัง   ลักษณะจิตรกรรมฝาผนังในสมัยอยุธยาถูก

               ถ่ายทอดสู่ช่วงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2325-ปัจจุบัน) จิตรกรรมฝาผนังแบบประเพณีเกิดการเปลี่ยนแปลงเนื่องจาก

               ได้รับอิทธิพลจากจิตรกรรมร่วมสมัยแบบตะวันตก  ท าให้เกิดจิตรกรรมร่วมสมัยที่มีลักษณะผสมผสานระหว่าง
               ตะวันออกและตะวันตก (Schwartzbaum, Na Songkhla, & Massari, 1986)

                                 ี่
                    ส าหรับเทคนิคทใช้ในงานจิตรกรรมแบบประเพณีของไทยนั้นไม่มีการจดบันทึกอย่างเป็นระบบ ต้องสืบค้น
               จากตัวชิ้นงานจิตรกรรมซึ่งเกิดการเสื่อมสภาพโดยเฉพาะส่วนที่เป็นสารอินทรีย์  แต่ช่างศิลปกรรมไทยเชื่อว่า

               การเขียนจิตรกรรมไทยนั้นใช้เทคนิค  “tempera”  ซึ่งเป็นการเขียนสีบนปูนแห้ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตรกรรม

               ฝาผนังบนพื้นปูนนั้น  ปูนที่ใช้ได้จากการหมักปูนขาว  (CaO)  ในน้ าจนได้ปูนหมัก  น าปูนหมักมาผสมกับทราย
               เยื่อกระดาษ  และกาวหนังสัตว์  เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อปูนและการเกาะยึดกับพื้นผิวของอิฐ  แล้วน าปูน

                          ั
                                                                                      ื้
               หมักที่ผสมกบองค์ประกอบต่างๆ  เรียบร้อยแล้วมาฉาบบนแผ่นอิฐ  ทิ้งไว้เพื่อให้พนผิวคลายความเป็นเบส
               เนื่องจาก  Ca(OH)   ในปูนหมักเกิดปฏิกิริยากับ  CO   ในอากาศ  แล้วกลายเป็น  CaCO   ตรวจสอบความเป็น
                                                          2
                                                                                       3
                               2
               กรด-เบสของพื้นผิวด้วยกระดาษขมิ้น ถ้ากระดาษขมิ้นไม่เปลี่ยนเป็นสีส้ม จะถือว่าพื้นผิวปูนกลายเป็น CaCO
                                                                                                         3
               อย่างสมบูรณ์    ซึ่งช่างฝีมือจะเร่งให้ผิวปูนคลายความเป็นเบสโดยใช้น้ าใบขี้เหล็ก   (Cassia   siamea
               Leguminosae) ซึ่งในน้ าใบขี้เหล็กนี้จะมีสารประกอบพวก polyphenol และ p-coumaric acid ที่ช่วยปรับ
               สภาพพื้นผิวปูนให้คลายความเป็นเบสรวดเร็วขึ้น  พื้นผิวที่เป็นเบสของปูนจะเกิดปฏิกิริยากับสีที่มีทองแดงเป็น

               องค์ประกอบ (Schwartz-baum, Na Songkhla, & Massari, 1986) หลังจากนั้นต้องมีการเตรียมชั้นรองพื้น
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19