Page 34 - คู่มือกิจกรรม งาน workshop วิทยาศาสตร์กับงานอนุรักษ์ศิลปกรรมไทย
P. 34

31


               4.  กิจกรรมลายรดน ้า

                                                                             ้
               ลายรดน ้า หมายถึง ลายทองที่ลางด้วยน้้า โดยเขียนลวดลายหรือรูปภาพใหปรากฏเป็นลายทองด้วยวิธีปิดทอง
                                          ้
               แล้วเอาน้้ารด จัดเป็นงานประณีตศิลป์ที่มีความสาคัญมากส้าหรับตกแต่งสิ่งของเครื่องใช้และเครื่องประดับของ
                                                       ้
               คนทั่วไป เครื่องใช้ในพระพุทธศาสนา ตลอดไปจนถึงของใช้ของพระมหากษัตริย์ โดยใช้ตกแต่งตั้งแต่สิ่งของที่มี
               ขนาดเล็กขึ้นไปจนถึงการใช้ตกแต่งผนังห้องขนาดใหญ่  ลักษณะพิเศษของลายรดน้้าคือ  มีวิธีในการเขียน
               แตกต่างไปจากงานจิตรกรรมทั่วไปที่ใช้สหลายสี  หรือแม้แต่งานจิตรกรรมประเภทเอกรงค์เองก็ตาม  เนื่องจาก
                                                ี
               การเขียนลายรดน้้าใช้น้้ายาหรดาลเขียนบนพื้นซึ่งทาด้วยยางที่ได้จากต้นรัก  เมื่อเขียนเสร็จแล้วจึงเช็ดรัก  ปิด

               ทองแล้วเอาน้้ารด  หรดาลที่ใช้เขียนเมื่อถูกน้้าก็จะหลุดออก  ส่วนที่เป็นลวดลายทองก็จะติดอยู่ทาให้ลวดลาย
                                                                                               ้
               หรือรูปภาพที่ปรากฏหลังการรดน้้า  เป็นสทองเพียงสีเดียวบนพื้นสีด้าหรือสีแดง  กรรมวิธีดังกล่าวมานี้เป็น
                                                    ี
                               ื
               แบบอย่างการท้าสบต่อกันมาแต่โบราณ
               ยางรัก (Sap) มีองค์ประกอบหลักแตกต่างกันไปตามชนิดของต้นรัก โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท

                     1. อูรูชิออล (Urushiol) เป็นองค์ประกอบหลักซึ่งพบในยางรักของจีน ญี่ปุ่น เกาหลี
                     2. แลกคอล (Laccol) เป็นองค์ประกอบหลักซึ่งพบในรักเวียดนาม ไต้หวัน

                     3. ทิตซิออล (Thitsiol) เป็นองค์ประกอบหลักซึ่งพบในรักใหญ่ของไทยและพม่า

                                                                                                      ่
                     ลักษณะของยางรักเมื่อกรีดออกมาจากล้าต้น  ในช่วงแรกมีลักษณะเป็นสีเหลืองข้นคล้ายนม  แล้วคอยๆ
               เปลี่ยนเป็นสีน้้าตาลและเข้มขึ้นเรื่อยๆจนเป็นสีดา  การที่ยางรักแห้งเกิดเป็นฟิล์มแข็งนั้นต้องอาศัยกระบวนการ
                                                       ้
               พอลิเมอไรเซชัน โดยมีเอนไซม์ laccase เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา

                     ยางรักของไทยจะมีปริมาณพอลิเมอร์  (Polymer  content)  และความหนืดมากกว่ายางรักจากจีนและ
               เวียดนาม แต่ใช้เวลาในการแห้งและกลายเป็นฟิล์มที่นานกว่า และยางรักแต่ละชนิดจะมีอุณภูมิและความชื้นท ี่
               เหมาะสมต่อการทางานของเอนไซม์ต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมที่ต้นรักเจริญเติบโตมา  โดยอุณหภูมิที่มีความ
                              ้
               เหมาะสมของยางรักที่ได้จากต้นรักใหญ่จะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ (Relative humidity)
               ที่ 90%

               4.1  การเสื่อมสภาพของยางรัก

                     โดยทั่วไปแล้วยางรักที่เพิ่งแห้งใหม่ๆ จะทนทานตอกรด, ด่าง, ตัวท้าละลายอินทรีย์ และน้้า รวมถึงจะ
                                                              ่
                                          ่
                                                                                               ี่
               ทนทานต่อผลกระทบจากแมลงตางๆ  แต่หากได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต  หรืออยู่ภายใต้อุณหภูมิทสูงเกินไปเป็น
                                                            ี
                                                                                                ้
                                                        ้
               ระยะเวลานาน จะท้าให้ยางรักเสื่อมสภาพ และทาให้สเปลี่ยนแปลง แม้ว่าพื้นผิวยางรักที่ท้าเพิ่งแหงใหม่ๆจะไม่
                                                                                                ี
               ละลายน้้า  แต่พื้นผิวที่เสื่อมสภาพแล้วนั้นสามารถละลายน้้าได้  การท้าความสะอาดโดยไม่สูญเสยพื้นผิวของ
               ชิ้นงานดั้งเดิมนั้นท้าได้ยากมาก  ความสามารถในการละลายของยางรักแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของยางรัก
               วิธีการใช้งาน  อายุ  และการสัมผัสกับแสง  ลักษณะการเสื่อมสภาพของยางรักมีตั้งแต่  พื้นผิวลอกเป็นแผ่น
               พื้นผิวแตกและเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต  ไปจนถึงความเสื่อมสภาพของชั้นรองรับ  ดังตัวอย่างความ
               เสื่อมสภาพของยางรักในลายรดน้้าของต้าหนักทอง  วัดไทร  (ภาพที่  1)  และตู้พระธรรมวัดราชาธิวาสวิหาร
               (ภาพที่ 2)
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39